บทที่ 7 เฮียขา

อาคมเดินเข้ามาในครัว เพื่อสำรวจดูว่ามีอะไรให้กินได้บ้าง เวลานี้จะไปหาอะไรที่ไหนกินก็ยากแล้ว แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวยังต้องขับเข้าไปกินในเมือง มือแกร่งเปิดกระติกน้ำ ที่เคยเอาข้าวสารใส่ไว้ ก่อนจะอมยิ้ม เมื่อเห็นข้าวสารยังเหลือเกือบครึ่งกระติก รอดตายแล้วชายหนุ่มคิดในใจ เมื่อมองหาหม้อหุงข้าว ไม่ได้ใช้มานานตัวหม้อไปทาง ฝาไปทาง สายไฟอีก ดีนะที่หนูไม่กัดจนขาด ไม่อย่างงั้นคงได้กินข้าวดิบกันบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หุงข้าวแล้วหนึ่งอย่าง ส่วนกับข้าวเดี๋ยวค่อยว่ากัน ไม่มีของสด มีแต่ไข่ มาม่า และปลากระป๋อง

"ดีนะที่ยังมีถุงยังชีพ"พูดกับตัวเอง เมื่อของที่มีไม่ต่างอะไรกับของบริจาค

ลันลดาเดินตามเข้ามา ยังคงยืนมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดกระแวง เจ้าตุ๊กแกพวกนั้นทำเธอประสาทหลอนไปหมด ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนเธอก็อยู่ไม่เป็นสุข อะไรขยับเขยื้อนเธอก็คอยระแวงว่าเป็นสัตว์น่ากลัวพวกนั้น ตากลมโตมองไปตามข้างฝา หลังคา ฝ้าเพดาน ก่อนจะไล่มองไปตามพื้น เพราะนอกจากตุ๊กแกแล้ว ยังมีสัตว์อีกหลายประเภท ที่เธอกลัว ยิ่งฝนตกพื้นเฉอะแฉะแบบนี้ เวลาค่ำๆอย่างนี้ อึ่งอ่าง คางคก ได้เวลาออกมาหากิน

"หลอน"อาคมพูดขึ้นมาลอยๆ เมื่อเห็นอาการของเธอ ที่จนป่านนี้ก็ยังอยู่ไม่สุข

"กลัวค่ะ"หญิงสาวตอบกลับไปตรงๆ เขาจะได้ไม่แกล้งเธออีก

"ตีไข่ให้หน่อย เดี๋ยวจะไปเก็บใบโหระพา"อาคมหันมาสั่ง เมื่อเห็นเธอยืนไม่อยู่สุข เดี๋ยวหันซ้ายเดี๋ยวหันขวา หางานให้ทำจะได้ดึงสติกลับมา

"ไข่อยู่ตรงไหนคะ"ถามเมื่อไม่เห็นไข่วางอยู่บนโต๊ะ

"ในตูดไก่มั้ง ถามโง่ๆ อยู่ในตู้เย็นครับคุณหนู"อาคมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แค่ไข่ก็ต้องถาม

"ถามเพราะไม่รู้ โง่มากเลยเหรอคะ"ลันลดาสวนกลับ เธอถามเขาดีๆนะ

"หัดคิดบ้างสิ สมองนะมีก็เอามาคิด"

"ไม่มีแล้วค่ะ ไปหมดแล้วสมงสมอง ตั้งแต่มาเจอคุณ สมองฉันก็ทำงานหนัก จนมันสลายเป็นโกโก้ครั๊นไปแล้ว"

"โห มุกเหรอน่ะ ผมต้องขำไหม ขออีกรอบได้ปะ เตรียมตัวไม่ทัน"

"ไอ้..."

"ไอ้อะไร พูดดีๆนะ ถ้ายังไม่อยากเป็นเมียเชลยก็พูดเพราะๆหน่อย เฮียคมคะ เฮียคมขา ไหนลองพูดสิ"ลันลดาอยากจะกลอกตา เฮียอย่างนั้นเหรอ ได้ค่ะได้ให้เรียกเฮียใช่ไหม

"เฮียยยขา ไข่อยู่ตรงไหนคะน้องป่านหาไม่เจอ เฮียยขาาาาช่วยหยิบให้น้องป่านหน่อยสิคะ นะคะนะๆๆๆ"ลันลดาปรับน้ำเสียงให้เล็กลง และดัดให้หวานที่สุด จงใจเน้นคำว่าเฮียชัดๆ ใช้เสียงสูงลากยาวจนมันเกือบจะเพี้ยนไปเป็นอีกคำ

"พอๆ ไม่ต้องเฮียยาวขนาดนั้น สั้นๆพอ"

"อ้าวไม่ชอบเหรอคะ เฮียขาาาาาา"

"ถ้าจะบ้า"พูดพร้อมกับเดินออกไปหลังบ้าน ที่เคยมีแปลงผักสวนครัวอยู่ตรงนั้น จำได้ว่าเคยมีต้นพริกมะนาว กระเพา โหระพา และผักอื่นๆอีกหลายชนิด ไม่ได้รดน้ำมานาน ไม่รู้ว่าตายไปหมดหรือยัง แต่ช่วงนี้ฝนตกบ่อย น่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง

"อย่าไปนานนะเฮียยยย ป่านกลัว"เสียงที่ถูกดัดให้หวาน ยังคงตะโกนตามมา มันน่าจับตุ๊กแกกลับไปฝากสักตัว อาคมคิด ไม่ง่ายเลยที่จะอยู่ร่วมบ้านกับคนที่ไม่รู้จักกัน นิสัยใจคอเธอเป็นยังไงก็ไม่รู้ เธอเป็นน้องสาวนายหญิง ก็น่าจะมีส่วนคล้ายพี่สาวบ้าง ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นคู่หมั้นคุณเผ่า เขาก็คงจะปล่อยเธอไป พ่อแม่เธอยิ่งไม่เหมือนคนอื่นอยู่ด้วย นึกจะเปลี่ยนตัวลูกตอนไหนก็เปลี่ยน ถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างจะดูเป็นปกติ แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เขากลัวพ่อตากับแม่ยายมาเห็นความร่ำรวยของลูกเขย แล้วเกิดเปลี่ยนใจ แย่งสามีพี่ไปให้น้อง เรื่องมันจะยุ่งไปใหญ่ นายหญิงกำลังท้องอยู่ด้วย เลยไม่อยากให้มีเรื่องอะไรไปกวนใจ เพราะกลัวจะกระทบถึงนายน้อยไปด้วย

"อยู่นี่สักพักก็แล้วกัน ถ้าทำตัวดีๆ แล้วจะพาไปส่ง"อาคมพูดกับตัวเอง เมื่อเก็บใบโหระพาได้หนึ่งกำมือ ไข่เจียวใส่ใบโหระพา กับยำปลากระป๋อง น่าจะพอรองท้องได้ พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่ จากที่ตั้งใจว่าจะเอามาทิ้งแล้วกลับเลย ก็ต้องเปลี่ยนใจมาหุงหาข้าวปลาให้กิน คิดว่าน่าจะนอนเป็นเพื่อนสักคืน อยู่ๆก็รู้สึกสงสารขึ้นมาซะงั้น ยิ่งตอนที่คนตัวนิ่มโผเข้ามากอดเขา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น หัวใจเขาก็ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ถ้าไม่ติดเรื่องหมั้น เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่น่ารักสมวัย ปีนี้เธออายุย่าง 22 เขารู้เพราะเขาเป็นคนไปเจรจาเรื่องเจ้าสาวให้เจ้านาย สาเหตุที่คุณประกรสลับตัว ก็เพราะอ้างว่าเธอยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแทน เจริญอย่างที่เผ่าเพชรว่า เพราะพอทางนี้ตกล่องปล่องชิ้นกันได้ ดันจะเปลี่ยนตัวกลับคืน เขาจำได้เลยว่าครั้งนั้นที่นายหญิงหนีไป ก็เพราะยายคนแก้มป่องที่ยืนตีไข่ให้เขานั่นแหละ พอใกล้จะเรียนจบก็บอกว่าพร้อมแล้วที่จะมาแต่งงาน พอเรียนจบเลยจะมาแย่งผัวพี่ใช่ไหม ฝันไปเถอะ ตราบใดที่ไอ้คมยังมีลมหายใจ ใครจะมาทำให้นายหญิงของเขาเสียใจไม่ได้ เพราะนายหญิงเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่ทำให้เจ้านายเขามีความสุข คุณเผ่ากลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ ก็เพราะมีนายหญิงลลนาเข้ามาเติมเต็ม

"ขอโทษนะครับนายหญิง" ขอโทษลลนาในใจ ถ้าเกิดเขาเผลอทำอะไรเกินเลยไป หวังว่าลลนาคงจะเข้าใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป